นายสิบทหารบก ตำแหน่งเสมียนสัสดี ช่วยราชการ กอ.รมน.จว.ระนอง (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดระนอง) หึงโหด ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 11 ม. ยิงสาวรุ่น วัย 21 เสียชีวิต ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง เนื่องจากหลังคบหากับสาวลูกพี่ลูกน้อง ผู้ตาย มากว่า 3 ปี ก่อนจะถูกแฟนสาว ตัดสัมพันธ์ แม้จะตามง้อคืนดี สาวไม่ใยดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีครอบครัวแล้ว จึงเกิดความแค้น ตามหาตัวกลุ่มเพื่อนๆ และแฟนสาว จนบุกถึงบ้าน แต่ลูกพี่ลูกน้อง ออกมารับหน้าแทน โดนยิงใส่หน้า กระสุนทะลุท้ายทอย เสียชีวิต อดีตแฟนสาว รอดตายหวุดหวิด
วันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ร.ต.อ.วีระพนธ์ ชัยอุดม ร้อยเวร พงส.สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงสาวและอาการสาหัส จำนวน 1 ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่ ร.พ.ระนอง เหตุเกิดที่บ้าน ซอยบางนอนใน ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.เมืองระนอง ,พ.ต.ท.สมบัติ ชุมพล พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองระนอง และพ.ต.ต.ยุทธนา ทองปาน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองระนอง และหน่วยพิสูจน์หลักฐาน จ.ระนอง เร่งรุดเข้าตรวจสอบเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว และที่บริเวณประตูบ้าน พบกองเลือดหยดอยู่บนพื้นบ้าน 1 กอง ห่างไปประมาณ 2 เมตร รอยกระสุนทะลุฝังประตูห้องนอน มีปลอกกระสุน 11 มม. หล่นอยู่บนพื้นนอกชายคาบ้าน 1 ปลอก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บปืนพกสั้น 11 มม. ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ได้จำนวน 1 กระบอก ที่คนร้ายใช้เป็นอาวุธปืนยิง ไว้เป็นของกลาง ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อต่อมา น.ส.วโรชา หรือ น้องโบว์ ศรีชะฎา อายุ 21 ปี อยู่ซอยบางนอนใน ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง และไปเสียชีวิตหลังจากถูกนำส่งที่ ตึกอุบัติเหตุ ร.พ.ระนอง
จากการสอบสวนเบื้องต้น พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ระบุคนร้ายผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ จ.ส.อ.วราวุฒิ หรือ จ่าเสือ บุตรจันทร์ อายุ 47 ปี ตำแหน่ง เสมียนสัสดี ช่วยราชการ กอ.รมน.จว.ระนอง โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์กระบะ ฟอร์ด สี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ 1824 นครศรีธรรมราช ออกตระเวนหาตัว น.ส.ขนิษฐา อายุ 24 ปี อดีตแฟนสาว ที่เคยทำงานแห่งเดียวกัน บนที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง และกลุ่มเพื่อนๆ น.ส.ขนิษฐา ได้โทรศัพท์มาแจ้งแล้วว่า จ.ส.อ.วราวุฒิ มีอาวุธปืนพกติดตัวมาด้วย และจะยิงให้หมด เนื่องจากคิดว่า เพื่อนๆ สาว ของอดีตแฟน มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ เกิดการตัดความสัมพันธ์ ไปก่อนหน้า ประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา หลังจากทราบว่า จ.ส.อ.วราวุฒิ มีภรรยาและครอบครัวแล้ว
เมื่อ จ่าวราวุฒิ เข้ามาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อจะมาพบ น.ส.ขนิษฐา และอยู่ในอาการที่ไม่สามารถควบคุมสติได้ ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนที่จะมาจอดรถหน้าบ้าน ซึ่งมีคนในเครือญาติ ทั้ง ย่า , น้า , ลุง และผู้เสียชีวิต ประมาณ 7-8 คน นั่งรับประทานข้าวร่วมกัน โดย น.ส.ขนิษฐา รู้ตัวได้รีบหลบเข้าไปในบ้าน และน.ส.วโรชา ผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง น.ส.ขนิษฐา ได้ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร มายืนรับหน้าแทน ที่หน้าประตู บอกว่า พี่เสือใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดคุยกัน แต่ จ่าวราวุฒิ หรือจ่าเสือ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ไปที่ น้องโบว์ ในระยะไม่ถึง 2 เมตร ก่อนจะล้มคว่ำ บนพื้นบ้าน ส่วนกระสุนปืน เข้าที่เหนือริมฝีปากบน ใต้จมูก ทะลุท้ายทอย และหัวกระสุนไปฝังประตูห้องนอน
ท่ามกลางความตกใจของญาติๆน้องโบว์ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีน้าชาย และเพื่อนบ้าน นั่งอยู่ในที่เกิดเหตุ รีบกระโดดเข้าแย่งปืน จ่าวราวุธ และเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กัน จนสามารถแย่งปืนจากมือผู้ก่อเหตุไว้ได้ มิฉะนั้นคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตอีกหลายราย แต่ จ่าวราวุฒิ ได้ดิ้นหลุด และรีบวิ่งหนีขึ้นรถยนต์หลบหนีไปทันที
ส่วนที่ตึกอุบัติเหตุ ร.พ.ระนอง บรรดาญาติๆ และเพื่อนสนิท เมื่อทราบข่าว น.ส.วโรชา เสียชีวิต ถึงกับร่ำไห้กันระงม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระนอง ได้นำร่างน้องโบว์ ส่งห้องเอ็กซเรย์ ก่อนจะนำร่างไปเก็บรักษาที่ห้องเก็บศพ เพื่อรอแพทย์นิติเวช ทำการชันสูตรพลิกศพ ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย. และมอบร่างน้องโบว์ไปบำเพ็ญกุศล และสวดพระอภิธรรมศพต่อไป
ที่ สภ.เมืองระนอง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.เมืองระนอง ได้ส่งชุดสืบสวน และตำรวจนอกเครื่องแบบ ออกติดตามตัว จ่าวราวุฒิ ผู้ก่อเหตุรายนี้ทันที เน้นพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดระนอง , ชุมพร ภูมิลำเนาเดิม และ สุราษฎร์ธานี ภูมิลำเนาครอบครัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวน จะทำการสอบปากคำพยาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ และติดตามตัว มาดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา
สาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง เนื่องจาก หลังจากคบหามากว่า 3 ปี ก่อนจะทราบว่ามีครอบครัวแล้ว จึงถูกแฟนสาวตัดสัมพันธ์ ประมาณ 5 เดือน แม้จะตามง้อคืนดี สาวไม่ใยดี จึงเกิดความแค้น ก่อนจะมาก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้
โดยประวัติ จ.ส.อ.วราวุฒิ บุตรจันทร์ จบนักเรียนนายสิบทหารบก เหล่าช่าง รุ่น 19/29 เมื่อปี พ.ศ. 2529 , สอบโอนย้ายมามาเป็นนายสิบ เหล่าสารบรรณ ตำแหน่งเสมียนสัสดี ปี 2532 รับราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดระนอง ล่าสุด มาช่วยราชการทหาร ประจำ กอ.รมน.จว.ระนอง ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาทหาร ต้นสังกัด ทราบข่าวนี้แล้ว จะรีบติดตาม หากพบตัวจะนำเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ต่อไป
วันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ร.ต.อ.วีระพนธ์ ชัยอุดม ร้อยเวร พงส.สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงสาวและอาการสาหัส จำนวน 1 ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่ ร.พ.ระนอง เหตุเกิดที่บ้าน ซอยบางนอนใน ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.เมืองระนอง ,พ.ต.ท.สมบัติ ชุมพล พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองระนอง และพ.ต.ต.ยุทธนา ทองปาน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองระนอง และหน่วยพิสูจน์หลักฐาน จ.ระนอง เร่งรุดเข้าตรวจสอบเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว และที่บริเวณประตูบ้าน พบกองเลือดหยดอยู่บนพื้นบ้าน 1 กอง ห่างไปประมาณ 2 เมตร รอยกระสุนทะลุฝังประตูห้องนอน มีปลอกกระสุน 11 มม. หล่นอยู่บนพื้นนอกชายคาบ้าน 1 ปลอก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บปืนพกสั้น 11 มม. ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ได้จำนวน 1 กระบอก ที่คนร้ายใช้เป็นอาวุธปืนยิง ไว้เป็นของกลาง ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อต่อมา น.ส.วโรชา หรือ น้องโบว์ ศรีชะฎา อายุ 21 ปี อยู่ซอยบางนอนใน ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง และไปเสียชีวิตหลังจากถูกนำส่งที่ ตึกอุบัติเหตุ ร.พ.ระนอง
จากการสอบสวนเบื้องต้น พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ระบุคนร้ายผู้ก่อเหตุรายนี้ คือ จ.ส.อ.วราวุฒิ หรือ จ่าเสือ บุตรจันทร์ อายุ 47 ปี ตำแหน่ง เสมียนสัสดี ช่วยราชการ กอ.รมน.จว.ระนอง โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์กระบะ ฟอร์ด สี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ 1824 นครศรีธรรมราช ออกตระเวนหาตัว น.ส.ขนิษฐา อายุ 24 ปี อดีตแฟนสาว ที่เคยทำงานแห่งเดียวกัน บนที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง และกลุ่มเพื่อนๆ น.ส.ขนิษฐา ได้โทรศัพท์มาแจ้งแล้วว่า จ.ส.อ.วราวุฒิ มีอาวุธปืนพกติดตัวมาด้วย และจะยิงให้หมด เนื่องจากคิดว่า เพื่อนๆ สาว ของอดีตแฟน มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ เกิดการตัดความสัมพันธ์ ไปก่อนหน้า ประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา หลังจากทราบว่า จ.ส.อ.วราวุฒิ มีภรรยาและครอบครัวแล้ว
เมื่อ จ่าวราวุฒิ เข้ามาที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อจะมาพบ น.ส.ขนิษฐา และอยู่ในอาการที่ไม่สามารถควบคุมสติได้ ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนที่จะมาจอดรถหน้าบ้าน ซึ่งมีคนในเครือญาติ ทั้ง ย่า , น้า , ลุง และผู้เสียชีวิต ประมาณ 7-8 คน นั่งรับประทานข้าวร่วมกัน โดย น.ส.ขนิษฐา รู้ตัวได้รีบหลบเข้าไปในบ้าน และน.ส.วโรชา ผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง น.ส.ขนิษฐา ได้ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร มายืนรับหน้าแทน ที่หน้าประตู บอกว่า พี่เสือใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดคุยกัน แต่ จ่าวราวุฒิ หรือจ่าเสือ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ไปที่ น้องโบว์ ในระยะไม่ถึง 2 เมตร ก่อนจะล้มคว่ำ บนพื้นบ้าน ส่วนกระสุนปืน เข้าที่เหนือริมฝีปากบน ใต้จมูก ทะลุท้ายทอย และหัวกระสุนไปฝังประตูห้องนอน
ท่ามกลางความตกใจของญาติๆน้องโบว์ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีน้าชาย และเพื่อนบ้าน นั่งอยู่ในที่เกิดเหตุ รีบกระโดดเข้าแย่งปืน จ่าวราวุธ และเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กัน จนสามารถแย่งปืนจากมือผู้ก่อเหตุไว้ได้ มิฉะนั้นคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตอีกหลายราย แต่ จ่าวราวุฒิ ได้ดิ้นหลุด และรีบวิ่งหนีขึ้นรถยนต์หลบหนีไปทันที
ส่วนที่ตึกอุบัติเหตุ ร.พ.ระนอง บรรดาญาติๆ และเพื่อนสนิท เมื่อทราบข่าว น.ส.วโรชา เสียชีวิต ถึงกับร่ำไห้กันระงม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระนอง ได้นำร่างน้องโบว์ ส่งห้องเอ็กซเรย์ ก่อนจะนำร่างไปเก็บรักษาที่ห้องเก็บศพ เพื่อรอแพทย์นิติเวช ทำการชันสูตรพลิกศพ ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย. และมอบร่างน้องโบว์ไปบำเพ็ญกุศล และสวดพระอภิธรรมศพต่อไป
ที่ สภ.เมืองระนอง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.เมืองระนอง ได้ส่งชุดสืบสวน และตำรวจนอกเครื่องแบบ ออกติดตามตัว จ่าวราวุฒิ ผู้ก่อเหตุรายนี้ทันที เน้นพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดระนอง , ชุมพร ภูมิลำเนาเดิม และ สุราษฎร์ธานี ภูมิลำเนาครอบครัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวน จะทำการสอบปากคำพยาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ และติดตามตัว มาดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา
สาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง เนื่องจาก หลังจากคบหามากว่า 3 ปี ก่อนจะทราบว่ามีครอบครัวแล้ว จึงถูกแฟนสาวตัดสัมพันธ์ ประมาณ 5 เดือน แม้จะตามง้อคืนดี สาวไม่ใยดี จึงเกิดความแค้น ก่อนจะมาก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้
โดยประวัติ จ.ส.อ.วราวุฒิ บุตรจันทร์ จบนักเรียนนายสิบทหารบก เหล่าช่าง รุ่น 19/29 เมื่อปี พ.ศ. 2529 , สอบโอนย้ายมามาเป็นนายสิบ เหล่าสารบรรณ ตำแหน่งเสมียนสัสดี ปี 2532 รับราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดระนอง ล่าสุด มาช่วยราชการทหาร ประจำ กอ.รมน.จว.ระนอง ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาทหาร ต้นสังกัด ทราบข่าวนี้แล้ว จะรีบติดตาม หากพบตัวจะนำเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ต่อไป
ที่มา ข่าวสด