วันที่ 20 ส.ค. พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ ชุดสืบสวนสอบสวน นครบาล 4 และ นครบาล 5 พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีอุ้มบุญว่า เตรียมออกหมายเรียกนายชิเกตะ มิตซึโตะกิ ชาวญี่ปุ่นอายุ 24 ปี ในฐานะพยาน ส่วนนายแพทย์พิสิฐ ตันติวัฒนากุล เจ้าของคลินิกออลไอวีเอฟ ที่เกี่ยวข้องทำอุ้มบุญ ที่ถูกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแจ้งความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล ประกอบกิจการและสถานพยาบาลไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท มีกำหนดพบพนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี วันที่ 22 สค.นี้
ขณะที่ผลตรวจพิสูจน์ตัวอย่างดีเอ็นเอของนายชิเกตะ กับเด็กทารก 9 คน ที่เกิดจากแม่อุ้มบุญ เบื้องต้นดีเอ็นเอตรงกัน ส่วนที่นายชิเกตะจะมาตรวจด้วยตัวเองหรือไม่นั้น ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญ คือ มีการนำเด็กทั้งหมดไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ หลังจากนี้หากนายชิเกตะต้องการนำเด็กอุ้มบุญออกต่างประเทศ ต้องได้รับความยินยอมจากมารดาของเด็กหรือร้องต่อศาล ส่วนเด็กทั้งหมดขณะนี้อยู่ในการดูแลของพม.
ขณะที่ผลตรวจพิสูจน์ตัวอย่างดีเอ็นเอของนายชิเกตะ กับเด็กทารก 9 คน ที่เกิดจากแม่อุ้มบุญ เบื้องต้นดีเอ็นเอตรงกัน ส่วนที่นายชิเกตะจะมาตรวจด้วยตัวเองหรือไม่นั้น ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญ คือ มีการนำเด็กทั้งหมดไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ หลังจากนี้หากนายชิเกตะต้องการนำเด็กอุ้มบุญออกต่างประเทศ ต้องได้รับความยินยอมจากมารดาของเด็กหรือร้องต่อศาล ส่วนเด็กทั้งหมดขณะนี้อยู่ในการดูแลของพม.