กสทช.ถก ผู้ให้บริการมือถือ และกูเกิลแก้ปัญหาซื้อของหรือเกมผ่านมือถือ โดยกูเกิลใช้ระบบยืนยันพาสเวิร์ดก่อนสั่งซื้อ เช่นเดียวกับค่ายมือถือกำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท/รายการ
นาย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อป้องกันปัญหาใน ลักษณะเดียวกับคุกกี้รันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่ากสทช.เชิญผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กับผู้ให้บริการบริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เนเวอร์ ไลน์ ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
"บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด บริษัท กูเกิล และบริษัท เนเวอร์ ไลน์ ตกลงกันว่า กูเกิลจะให้ทีมวิศวกรเซ็ตระบบให้ต้องมีการยืนยันพาสเวิร์ดทุกครั้งที่มีการ ซื้อสินค้าและบริการผ่านกูเกิลเพลย์ (Google Play) เช่นเดียวกับของแอปเปิ้ล (แอป สโตร์) พร้อมกับให้มีอีเมล์ยืนยันการทำรายการซื้อตอบกลับจากกูเกิลเป็นภาษาไทย" นายฐากรกล่าว
เลขาธิการ กสทช.กล่าวอีกว่า สำหรับเอไอเอสจะกำหนดวงเงินค่าใช้บริการในการซื้อ หรือใช้บริการผ่านการเก็บเงินรวมกับบิลค่าโทรศัพท์มือถือ อย่างเกมคุกกี้ รัน ไว้ที่ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท และไม่เกินวงเงินใหญ่ที่กำหนดของแต่ละเลขหมาย อีกทั้งต้องมีเอสเอ็มเอสแจ้งไปยังเลขหมายโทรศัพท์มือถือทันทีที่มีการซื้อ หรือใช้บริการทันที
นายฐากรกล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ผู้ให้บริการเครือข่าย ยังต้องส่งเอสเอ็มเอสไปยังเลขหมายโทรศัพท์มือถือสำรองอีก 1 เบอร์ ในกรณีการใช้บริการเสริมผ่านเครื่องแท็บเล็ตที่ไม่สามารถรับเอสเอ็มเอสได้ หรือเลขหมายโทรศัพท์มือถือคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทราบด้วย
"ทาง เอไอเอสได้แจ้งว่าจะเปิดให้บริการผ่านการเก็บเงินรวมกับบิลค่าโทรศัพท์มือ ถือใหม่ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ หลังจากได้ยุติระบบบริการดังกล่าววันที่ 30 พ.ค. ที่มี ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บค่าบริการสูงกว่าปกติจากการเล่นเกมคุกกี้ แต่ทั้งนี้เมื่อกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งต้องพร้อมส่งเอสเอ็มเอสให้คุณ พ่อคุณแม่ ผู้ปกครองในเลขหมายที่แจ้งไว้กับบริษัท ซึ่งในเบื้องต้นจะส่งเป็นเลขหมายในเครือข่ายเอไอเอสก่อน จากนั้นจึงจะพัฒนาไปยังเลขหมายที่ต่างเครือข่ายต่อไป" นายฐากรกล่าว
นาย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อป้องกันปัญหาใน ลักษณะเดียวกับคุกกี้รันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่ากสทช.เชิญผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กับผู้ให้บริการบริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เนเวอร์ ไลน์ ได้ข้อสรุปในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
"บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด บริษัท กูเกิล และบริษัท เนเวอร์ ไลน์ ตกลงกันว่า กูเกิลจะให้ทีมวิศวกรเซ็ตระบบให้ต้องมีการยืนยันพาสเวิร์ดทุกครั้งที่มีการ ซื้อสินค้าและบริการผ่านกูเกิลเพลย์ (Google Play) เช่นเดียวกับของแอปเปิ้ล (แอป สโตร์) พร้อมกับให้มีอีเมล์ยืนยันการทำรายการซื้อตอบกลับจากกูเกิลเป็นภาษาไทย" นายฐากรกล่าว
เลขาธิการ กสทช.กล่าวอีกว่า สำหรับเอไอเอสจะกำหนดวงเงินค่าใช้บริการในการซื้อ หรือใช้บริการผ่านการเก็บเงินรวมกับบิลค่าโทรศัพท์มือถือ อย่างเกมคุกกี้ รัน ไว้ที่ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท และไม่เกินวงเงินใหญ่ที่กำหนดของแต่ละเลขหมาย อีกทั้งต้องมีเอสเอ็มเอสแจ้งไปยังเลขหมายโทรศัพท์มือถือทันทีที่มีการซื้อ หรือใช้บริการทันที
นายฐากรกล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ผู้ให้บริการเครือข่าย ยังต้องส่งเอสเอ็มเอสไปยังเลขหมายโทรศัพท์มือถือสำรองอีก 1 เบอร์ ในกรณีการใช้บริการเสริมผ่านเครื่องแท็บเล็ตที่ไม่สามารถรับเอสเอ็มเอสได้ หรือเลขหมายโทรศัพท์มือถือคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทราบด้วย
"ทาง เอไอเอสได้แจ้งว่าจะเปิดให้บริการผ่านการเก็บเงินรวมกับบิลค่าโทรศัพท์มือ ถือใหม่ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ หลังจากได้ยุติระบบบริการดังกล่าววันที่ 30 พ.ค. ที่มี ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บค่าบริการสูงกว่าปกติจากการเล่นเกมคุกกี้ แต่ทั้งนี้เมื่อกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งต้องพร้อมส่งเอสเอ็มเอสให้คุณ พ่อคุณแม่ ผู้ปกครองในเลขหมายที่แจ้งไว้กับบริษัท ซึ่งในเบื้องต้นจะส่งเป็นเลขหมายในเครือข่ายเอไอเอสก่อน จากนั้นจึงจะพัฒนาไปยังเลขหมายที่ต่างเครือข่ายต่อไป" นายฐากรกล่าว