ข่าวออนไลน์ รวมข่าววันนี้ เป็นการรวบรวมข่าวจากเว็บไซต์ต่างๆ ข่าวเด่นประเด็นร้อน ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งในและต่างประเทศ คลิปเด็ด คลิปดัง นำเสนอข้อมูล ข่าวสาร สู่ผู้ชมทั่วโลกผ่านสื่อออนไลน์ ไร้พรมแดน ไร้ผู้บงการ ไร้การรีดไถเงิน เป็นอิสระด้านความถูกต้อง นำเสนอข่าวด้วยความโปร่งใส เพื่อสังคมไทยปัจจุบัน

แชร์สนั่น! สาวใต้รอพัสดุ ไอโฟน 4s เปิดเจอก้อนหิน?



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเน็ตในโลกออนไลน์ต่างกำลังวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งโพสต์รูปภาพและข้อความระบุว่า โทรศัพท์ไอโฟน 4 เอส ที่ถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ ได้สูญหายไป ระหว่างการนำส่งพัสดุโดยไปรษณีย์ไทย เมื่อพัสดุถึงมือผู้รับปรากฏว่าเป็นเพียงก้อนหินอยู่ในซองพัสดุ

ตามรายงานระบุว่า เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) โลกออนไลน์ต่างให้ความสนใจและแชร์ส่งต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "T′oey Sanamid" หญิงสาวที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช หลังโพสต์รูปภาพซองพัสดุของไปรษณีย์ไทย เมื่อเปิดออกมาดูพบเป็นก้อนหินใหญ่ 1 ก้อน บรรจุอยู่ในซองกันกระแทก โดยหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่า แท้ที่จริงแล้วในซองพัสดุควรจะเป็นโทรศัพท์ไอโฟน 4 เอส ที่พี่สาวจากกรุงเทพฯ ส่งมาให้

จากการตรวจสอบผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "T′oey Sanamid" พบว่า เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) หญิงสาวผู้เสียหายได้โพสต์รูปภาพและข้อความหลายครั้ง เพื่อชี้แจงและร้องเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้โพสต์ข้อความไว้ว่า "คือซวยมาก ทำไมมันแย่แบบนี้ไปรษณีไทย พี่สาวส่งโทรศัพท์ไอโฟน4sมาให้ ต้นทางามมาจาก ม.รังสิต แต่เปิดมาเป็นก้อนหิน เราแกะต่อหน้าไปรษณีเลย คนมาส่งก็เห็น ทำไมมันชั่วแบบนี้ โดยกับตัวเองแล้วท้อเลยว่ะ !!"

ภายหลังจากรูปภาพและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย ต่างมีผู้คนเข้ามาให้กำลังใจและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "T′oey Sanamid" ยังคงรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับผิดหวังกับการทำงานของไปรษณีย์ อีกทั้งยังมีผู้คนบางส่วนตามมาตำหนิ เนื่องจากไม่เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและกล่าวหาว่าสร้างเรื่องสร้างกระแส

ในเวลาต่อมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "T′oey Sanamid" ได้ชี้แจงว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พี่สาวที่อยู่กรุงเทพฯ ได้ส่งโทรศัพท์ไอโฟ 4 เอส มาให้ใช้ โดยเลือกการส่งผ่านไปรษณีย์ ซึ่งหญิงสาวก็ยอมรับว่าสะเพร่าในการส่ง เลือกใช้ซองพัสดุและไม่ได้ระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของมีค่า อีกทั้งยืนยันว่าไม่ได้สร้างกระแสหรือกุข่าวเองแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ล่าสุดหญิงสาวผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเอาไว้ที่ สภ.ฉวาง เรียบร้อยแล้ว