เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ร.ต.ท.สุพจน์ อุทกิจ เจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หนองสูง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่กระท่อมนา บ้านวังไฮ หมู่ 2 ต.ภูวง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กฤตนัย บัวพันธ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรหนองสูง พร้อมนำกำลัง เจ้าหน้าที่แพทย์โรงพยาบาลหนองสูง รุดไปที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเป็นกระท่อมนา อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 ก.ม. เจ้าหน้าที่พบกองขี้เถ้าที่มอดแล้ว พบศพสภาพที่ถูกไฟไหม้เหลือเพียงกระดูกอยู่ในกองขี้เถ้า เบื้องต้นสันนิฐานว่าผู้ตายคือ น.ส.จันทร์ยานุช จำปา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.2 ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหาร มีตำแหน่งเป็นครูอัตราจ้าง โรงเรียนบ้านนาตะแบง หมู่ 6 ต.ภูวง อ.หนองสูง
ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมนาใช้เก็บฟางให้แก่สัตว์เลี้ยง ของนายสำรอง อาจวิชัย อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.2 ต.ภูวง อ.หนองสูง ผู้พบศพ แจ้งว่า ผู้ตายน่าจะเป็น น.ส.จันทร์ยานุช จำปา ว่าที่ลูกสะใภ้ของตน เพราะบุตรชายของตนและ นส.จันทร์ยานุช จะมานอนเฝ้าที่กระท่อเป็นประจำ ซึ่งคืนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาหาบุตรชายแต่ก็ไม่ได้รับสาย กระทั่งรุ่งเช้าตนมาที่กระท่อมนาจึงรู้ว่าเกิดเหตุขึ้น ส่วนบุตรชายของนายสำรองอายุประมาณ 38 ปี ก็ได้หายตัวไป
จากหลักฐานในจุดเกิดเหตุน่าเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นชายที่ใกล้ชิดสนิทกับ น.ส.จันทร์ยานุช หลังฆ่าแล้วจึงได้จุดไฟเผา ซึ่งตรงกับที่มีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในบริเวณดังกล่าวในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบกระดาษบรรยายความในใจเกี่ยวกับการครองเรือนที่ไม่ราบรื่น จดหมายเขียนบรรยายการใช้ชีวิตคู่กับหญิงสาว มีใจความตอนหนึ่งว่า “หญิงคนนี้ชื่อจันทร์ยานุช จำปา หลอกให้ไปกู้เงิน 1 แสนแล้วจะมาเลี้ยงพ่อแม่กูที่วังไฮ ท้องกับกู 2 เดือนเอาออก บอกกูว่าธรรมดาแค่คนที่สอง กูแค้นมันบอกแม่มึงมึงเลี้ยงเองสิ กูตัดปัญหาโลกร้อนเพื่อไม่ให้มันไปหลอกคนอื่น ใครว่ากูโง่ก็ตามไม่โดนมันไม่รู้ ฯลฯ (พ่อแม่พี่น้องทุกคนผมขอโทษ ผมคนไม่โหดไม่เก่งแต่อย่าท้าให้ทำ แต่ต้องทำคนตายเรื่องมันจบ คนไม่ตายเรื่องมันยาวต่อไป) ”
ด้านนายนารง จำปา อายุ 51 ปี 120 ม.7 บ.โคกป่งเปือย ต.นาโสก อ.เมือง จ.มุกดาหาร บิดาของ น.ส.จันทร์ยานุช กล่าวว่า ช่วงกลางคืนวันเกิดเหตุได้โทรมาหาลูกสาว ได้รับคำตอบว่ากำลังเอาสัตว์เลี้ยงเข้าเล้า จากนั้นก็โทรไม่ติดก็ไม่ได้คิดอะไร ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นเขามีปากเสียงกันแต่อย่างไร มีเพียงบุตรสาวเคยเล่าให้ฟังว่าหากพูดไม่ฟังหรือจะตีจาก ก็คงต้องแตกหักกันไปข้างอะไรประมาณนี้
ร.ต.ท.สุพจน์ อุทกิจ เจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หนองสูง กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ ทำให้น่าสงสัยว่าผู้ที่อยู่กับ น.ส.จันทร์ยานุช ในคืนเกิดเหตุน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยน่าจะมีเพียงผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ตายในกระท่อมนา ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าแล้วเผาทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ ขณะนี้ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่ผู้ต้องสงสัยทำงานอยู่ ทั้งสอบถามไปยังกลุ่มเครือญาติก็ยังไม่ได้รับคำตอบ คาดว่าภายในไม่กี่วันเราน่าจะรู้ผลสรุปได้อย่างแน่นอน
จุดเกิดเหตุเป็นกระท่อมนา อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 ก.ม. เจ้าหน้าที่พบกองขี้เถ้าที่มอดแล้ว พบศพสภาพที่ถูกไฟไหม้เหลือเพียงกระดูกอยู่ในกองขี้เถ้า เบื้องต้นสันนิฐานว่าผู้ตายคือ น.ส.จันทร์ยานุช จำปา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.2 ต.นาโสก อ.เมืองมุกดาหาร มีตำแหน่งเป็นครูอัตราจ้าง โรงเรียนบ้านนาตะแบง หมู่ 6 ต.ภูวง อ.หนองสูง
ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมนาใช้เก็บฟางให้แก่สัตว์เลี้ยง ของนายสำรอง อาจวิชัย อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.2 ต.ภูวง อ.หนองสูง ผู้พบศพ แจ้งว่า ผู้ตายน่าจะเป็น น.ส.จันทร์ยานุช จำปา ว่าที่ลูกสะใภ้ของตน เพราะบุตรชายของตนและ นส.จันทร์ยานุช จะมานอนเฝ้าที่กระท่อเป็นประจำ ซึ่งคืนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาหาบุตรชายแต่ก็ไม่ได้รับสาย กระทั่งรุ่งเช้าตนมาที่กระท่อมนาจึงรู้ว่าเกิดเหตุขึ้น ส่วนบุตรชายของนายสำรองอายุประมาณ 38 ปี ก็ได้หายตัวไป
จากหลักฐานในจุดเกิดเหตุน่าเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นชายที่ใกล้ชิดสนิทกับ น.ส.จันทร์ยานุช หลังฆ่าแล้วจึงได้จุดไฟเผา ซึ่งตรงกับที่มีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในบริเวณดังกล่าวในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบกระดาษบรรยายความในใจเกี่ยวกับการครองเรือนที่ไม่ราบรื่น จดหมายเขียนบรรยายการใช้ชีวิตคู่กับหญิงสาว มีใจความตอนหนึ่งว่า “หญิงคนนี้ชื่อจันทร์ยานุช จำปา หลอกให้ไปกู้เงิน 1 แสนแล้วจะมาเลี้ยงพ่อแม่กูที่วังไฮ ท้องกับกู 2 เดือนเอาออก บอกกูว่าธรรมดาแค่คนที่สอง กูแค้นมันบอกแม่มึงมึงเลี้ยงเองสิ กูตัดปัญหาโลกร้อนเพื่อไม่ให้มันไปหลอกคนอื่น ใครว่ากูโง่ก็ตามไม่โดนมันไม่รู้ ฯลฯ (พ่อแม่พี่น้องทุกคนผมขอโทษ ผมคนไม่โหดไม่เก่งแต่อย่าท้าให้ทำ แต่ต้องทำคนตายเรื่องมันจบ คนไม่ตายเรื่องมันยาวต่อไป) ”
ด้านนายนารง จำปา อายุ 51 ปี 120 ม.7 บ.โคกป่งเปือย ต.นาโสก อ.เมือง จ.มุกดาหาร บิดาของ น.ส.จันทร์ยานุช กล่าวว่า ช่วงกลางคืนวันเกิดเหตุได้โทรมาหาลูกสาว ได้รับคำตอบว่ากำลังเอาสัตว์เลี้ยงเข้าเล้า จากนั้นก็โทรไม่ติดก็ไม่ได้คิดอะไร ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นเขามีปากเสียงกันแต่อย่างไร มีเพียงบุตรสาวเคยเล่าให้ฟังว่าหากพูดไม่ฟังหรือจะตีจาก ก็คงต้องแตกหักกันไปข้างอะไรประมาณนี้
ร.ต.ท.สุพจน์ อุทกิจ เจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หนองสูง กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ ทำให้น่าสงสัยว่าผู้ที่อยู่กับ น.ส.จันทร์ยานุช ในคืนเกิดเหตุน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยน่าจะมีเพียงผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้ตายในกระท่อมนา ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าแล้วเผาทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ ขณะนี้ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่ผู้ต้องสงสัยทำงานอยู่ ทั้งสอบถามไปยังกลุ่มเครือญาติก็ยังไม่ได้รับคำตอบ คาดว่าภายในไม่กี่วันเราน่าจะรู้ผลสรุปได้อย่างแน่นอน