กรมศิลป์ ยุติค้นหาทอง-สิ่งของมีค่า ในพื้นที่สวนปาล์ม อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง แล้ว ชี้ขาดเครื่องมือสำคัญในการสำรวจ...
วันที่ 28 มิถุนายน ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่มีการขุดพบทองคำและสิ่งมีค่าอื่นๆ ทางประวัติศาสตร์เป็นจำนวนมากมาย บริเวณแปลงปาล์มน้ำมันในท้องที่ ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของนายวิ ทับแสง อายุ 55 ปี ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 และซึ่งต่อมาทางกรมศิลปากร ได้ส่งนักโบราณคดีเข้าขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ดังกล่าว และประกาศให้ผู้พบทอง และสิ่งมีค่าอื่นๆ มามอบให้กับกรมศิลปากร จนมีผู้นำแผ่นทองคำและสิ่งมีค่าอื่นๆ มามอบให้กรมศิลปากร จำนวน 8 ราย น้ำหนักรวมกันประมาณ 2,166 กรัม หรือมีน้ำหนัก 142.5 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากที่นักโบราณคดีได้มีการขุดหาแผ่นทองคำ และสิ่งมีค่าอื่นๆ ร่วมกับกำลังทหารจากกองพันทหารช่าง 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง ในบริเวณดังกล่าว โดยใช้รถแบ็กโฮ มาช่วยขุดดินด้วยนั้น ที่ผ่านมา ก็ยังไม่พบแผ่นทองคำ และสิ่งมีค่าอื่นๆ แต่อย่างใด การขุดค้นทางโบราณคดี จึงได้ยุติลง เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา โดยมอบคืนพื้นที่ให้กับนายวิ เป็นผู้ดูแล ในขณะที่กำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็ถอนกำลังออกแล้วเช่นกัน หากใครเข้าไปขุดค้น ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมของกรมศิลปากร
นายอาณัติ กล่าวอีกว่า การขุดค้นทางโบราณคดีในครั้งนี้ อาจจะบรรลุเป้าหมายได้ แต่การดำเนินงานยังขาดเครื่องมือที่สำคัญ คือ เครื่องเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก และเครื่องตรวจวัดสนามแม่เหล็ก ซึ่งเครื่องทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวมีอยู่ที่สำนักเทคโนโลยี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงอุตสาหกรรม เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งหากนำเครื่องมือทั้ง 2 ชนิดมาจะสามารถทำการตรวจหาสิ่งมีค่า และโลหะต่างๆ ได้ในระยะความลึกถึง 5 เมตร ดังนั้นคณะขุดค้นจึงต้องยุติการดำเนินงานไว้ก่อน หากกรมศิลปากรจะให้ดำเนินการขุดค้นต่อไปโดยใช้เครื่องมือดังกล่าว ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งตนได้แจ้งไปยังอธิบดีกรมศิลปากรได้รับทราบแล้ว.
วันที่ 28 มิถุนายน ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า จากกรณีที่มีการขุดพบทองคำและสิ่งมีค่าอื่นๆ ทางประวัติศาสตร์เป็นจำนวนมากมาย บริเวณแปลงปาล์มน้ำมันในท้องที่ ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของนายวิ ทับแสง อายุ 55 ปี ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 และซึ่งต่อมาทางกรมศิลปากร ได้ส่งนักโบราณคดีเข้าขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ดังกล่าว และประกาศให้ผู้พบทอง และสิ่งมีค่าอื่นๆ มามอบให้กับกรมศิลปากร จนมีผู้นำแผ่นทองคำและสิ่งมีค่าอื่นๆ มามอบให้กรมศิลปากร จำนวน 8 ราย น้ำหนักรวมกันประมาณ 2,166 กรัม หรือมีน้ำหนัก 142.5 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากที่นักโบราณคดีได้มีการขุดหาแผ่นทองคำ และสิ่งมีค่าอื่นๆ ร่วมกับกำลังทหารจากกองพันทหารช่าง 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง ในบริเวณดังกล่าว โดยใช้รถแบ็กโฮ มาช่วยขุดดินด้วยนั้น ที่ผ่านมา ก็ยังไม่พบแผ่นทองคำ และสิ่งมีค่าอื่นๆ แต่อย่างใด การขุดค้นทางโบราณคดี จึงได้ยุติลง เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา โดยมอบคืนพื้นที่ให้กับนายวิ เป็นผู้ดูแล ในขณะที่กำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็ถอนกำลังออกแล้วเช่นกัน หากใครเข้าไปขุดค้น ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมของกรมศิลปากร
นายอาณัติ กล่าวอีกว่า การขุดค้นทางโบราณคดีในครั้งนี้ อาจจะบรรลุเป้าหมายได้ แต่การดำเนินงานยังขาดเครื่องมือที่สำคัญ คือ เครื่องเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก และเครื่องตรวจวัดสนามแม่เหล็ก ซึ่งเครื่องทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวมีอยู่ที่สำนักเทคโนโลยี กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงอุตสาหกรรม เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งหากนำเครื่องมือทั้ง 2 ชนิดมาจะสามารถทำการตรวจหาสิ่งมีค่า และโลหะต่างๆ ได้ในระยะความลึกถึง 5 เมตร ดังนั้นคณะขุดค้นจึงต้องยุติการดำเนินงานไว้ก่อน หากกรมศิลปากรจะให้ดำเนินการขุดค้นต่อไปโดยใช้เครื่องมือดังกล่าว ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งตนได้แจ้งไปยังอธิบดีกรมศิลปากรได้รับทราบแล้ว.