เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ในช่วงค่ำ ที่เวทีชุมนุม กปปส.สวนลุมพินี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวถึงกรณีที่องค์กรอิสระเสนอทางออกของสถานการณ์ และต้องมีการเจรจา ว่า องค์กรอิสระบอกให้ถอยคนละก้าว หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยอมลาออกให้คนกลางปฏิรูปประเทศก็ไม่มีปัญหา เรายอมรับได้และพร้อมกลับบ้าน แต่หากให้เรากลับบ้านและเลือกตั้ง และค่อยปฏิรูปการเมือง ก็ขอบอกว่าเราจะไม่พูดด้วย คนที่อยากเห็นการเจรจาอาจเจรจาได้เพราะเกรงใจคนกลาง แต่จะสำเร็จยาก เพราะมันอยู่กันคนละขั้วโลก
นายสุเทพ กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. บอกว่า อำมาตย์อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ กปปส. อยากบอกว่าเป็นเรื่องที่โกหกและบาปหนักที่สุด เราไม่เคยเห็นหน้าอำมาตย์คนไหนเลยตั้งแต่ต่อสู้มา นอกจากนี้ นปช.ยังทำลายความน่าเชื่อถือของศาล ที่ระบุว่า 2 มาตรฐาน คนส่วนใหญ่รับไม่ได้ เพราะศาลทำหน้าที่คงเส้นคงวามาตลอดคู่กับประเทศไทยมานาน ไม่ได้ลำเอียงเข้าข้างใคร เราไม่ต้องการให้ศาลมาเป็นประเด็นต่อสู้ทางการเมือง ขออย่าให้มาแตะต้องเลย หากเราไม่รักษาอำนาจตุลาการ บ้านเมืองเราจะไม่เหลืออะไรให้เคารพกันอีกแล้ว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุที่เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค.มีคนยิงระเบิด79 ที่บ้านนางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ ภรรยาของตนนั้น ภรรยาก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะมาอีกกี่ลูกก็ได้ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ามีการขนอาวุธผ่านไปได้ไม่รู้กี่ด่านตรวจแต่ทำไมไม่ถูกจับ นอกจากนี้ ที่ นปช.ประกาศใช้กองกำลังนปช.มาสู้กับเรา ประกาศรับสมัครกองกำลังติดอาวุธ อยากถามจะรบกับใคร หากมารบกับพวกเราผิดหวัง เพราะเราไม่คิดทำสงครามกลางเมืองกับใคร ยกมาเลย มาวันไหนเรากลับบ้านวันนั้น ตนไม่กลัวคำขู่ เพราะมั่นใจว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ความมั่นคง จะไม่ปล่อยไว้แน่นอน และเราจะไปนับรูกระสุนว่าถูกยิงคนละกี่รู
“ แต่ที่น่ากลัวคือการปล่อยข่าวให้พ่อค้าและนักธุรกิจมาเล่นงานเรา โดยเฉพาะทำเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวพัง ผมขอกราบเรียนว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์จ่ายเงินจำนำข้าวจำนวน 1.3 แสนล้านบาท ให้ชาวนาก็จบ แต่นี่ชักดาบ เลยทำให้เศรษฐกิจพัง จึงขอให้ท่านอย่าหูเบาไปเชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากให้คิดเสียใหม่ หากต่อไปไม่มีรัฐบาลโกง ก็จะทำให้ค้าขายดีกว่านี้แน่นอน และขอพวกท่านอย่าคิดไกลว่าเศรษฐกิจเจ๊งเพราะพวกเรา เราอยู่มา 4 เดือน ก็เทียบไม่ได้กับที่รัฐบาลบริหารมา 2ปี แล้วทำให้ประเทศชาติเสียหาย”นายสุเทพ กล่าว
ภาพ/ข่าว จาก เดลินิวส์