ข่าวออนไลน์ รวมข่าววันนี้ เป็นการรวบรวมข่าวจากเว็บไซต์ต่างๆ ข่าวเด่นประเด็นร้อน ข่าวสารความเคลื่อนไหวทั้งในและต่างประเทศ คลิปเด็ด คลิปดัง นำเสนอข้อมูล ข่าวสาร สู่ผู้ชมทั่วโลกผ่านสื่อออนไลน์ ไร้พรมแดน ไร้ผู้บงการ ไร้การรีดไถเงิน เป็นอิสระด้านความถูกต้อง นำเสนอข่าวด้วยความโปร่งใส เพื่อสังคมไทยปัจจุบัน

จับแล้วมือฆ่า ศพซุกแท็กซี่ สารภาพปมหัก หัวคิวแรงงาน


จับแล้วมือฆ่ายัดถังทิ้งศพในแท็กซี่ ตร.รวบทันควัน 2 หนุ่มพม่าร่วมแก๊งจัดหาแรงงานต่างด้าวกับผู้ตาย เกิดขัดแย้งในวงเหล้า ฉุนถูกอมเงิน 17,000 บาท และถูกข่มขู่มาตลอด เลยร่วมกับเพื่อนชาวพม่าอีก 1 คน รุมตี-แทง-ปาดคอจนเสียชีวิต แล้วโทร.เรียกเพื่อนอีกคนนำศพขึ้นแท็กซี่ ส่วนที่เหลือแยกย้ายหลบหนี ก่อนจนมุม ตร.เร่งล่าอีก 2 รายที่ยังหลบหนี



จาก กรณีโชเฟอร์แท็กซี่พบศพยัดถังอยู่ท้ายรถ หลังผู้โดยสารเรียกจากซอยกองพนันพล ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ให้ไปส่งย่านแสมดำ กรุงเทพฯ แต่กลับลงจากรถโดยไม่เอาของท้ายรถไปด้วย หลังเปิดท้ายพบศพชายยัดอยู่ในถังจึงเข้าแจ้งความที่สภ.ย่อยบางน้ำจืด เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา



ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ต. วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สมุทร สาคร พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก. สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร และพ.อ.นพดล จิเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายชิตซานเมือง หรือ นายเหมา สัญชาติพม่า อายุ 36 ปี กับนายตาจี สัญชาติพม่า อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าทุบหัว ปาดคอ นายตั้นนัยบุค สัญชาติพม่า อายุ 37 ปี ก่อนที่จะที่จับศพยัดใส่ถังพลาสติกสีดำ แล้วนำไปใส่ไว้ท้ายรถแท็กซี่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น. ของคืนวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา



โดย มีของกลางเป็นท่อนเหล็ก สีเงิน ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร 2 ท่อน, เหล็กขูดชาฟต์ ปลายแหลมยาว 15 เซนติเมตร 1 อัน และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน ขจล120 สมุทรสาครอีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้นี้เป็น 2 ใน 4 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่านายตั้นนัยบุค



หลังจากเจ้า หน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยบางน้ำจืด รับแจ้งจากนายอุทัย เพ็ชรสีเขียว คนขับแท็กซี่ สีชมพูขาว หมายเลขทะเบียน ทศ6878 กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะที่ขับรถแท็กซี่กำลังจะกลับบ้าน มีชายขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาเรียกให้ไปรับที่ห้องพักภายในซอยพนันพล หมู่ที่ 2 ต.บางน้ำจืด เมื่อไปถึงพบชายสองคนยกถังน้ำสีดำขึ้นท้ายกระโปรงรถ แล้วจึงบอกให้ไปส่งที่แสมดำ เมื่อไปถึงริมถนนพระราม 2 ชายคนที่นั่งมาด้วยได้บอกให้จอดแล้วทำทีเดินลงไปคุยโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินหายไป เมื่อลงมาดูที่ถังน้ำที่อยู่ท้ายกระโปรงรถ ก็พบว่ามีศพชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ถูกมัดยัดไว้ภายในถังดังกล่าวและมีผ้าปิดปากถังอยู่



จากการ สืบสวนทราบว่า ผู้ตายคือนายตั้นนัยบุค สัญชาติพม่า อายุ 37 ปี พักอยู่ห้องพักเลขที่ 137 หมู่ที่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบร่องรอยของการต่อสู้และคราบเลือด จึงเก็บรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานและติตตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน มาได้ ซึ่งได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพักใน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี



นอก จากนี้ยังมีผู้ต้องหาสัญชาติพม่าอีก 2 คน คือ นายซักกะร็อก ที่ก่อเหตุร่วมกันฆ่า และนายฟูจี สัญชาติพม่า ที่เป็นคนขับรถ มอเตอร์ไซค์ไปเรียกรถแท็กซี่ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมไปได้



ผู้ ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมผู้ตาย และเพื่อนรวม 4 คน ได้นั่งดื่มสุราอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีปากเสียงกัน เนื่องจากผู้ตายเอาเงินของพวกตนไป 17,000 บาท และไม่ยอมใช้คืน อีกทั้งยังมีพฤติกรรมข่มขู่พวกตนตลอดมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความแค้นใจจึงได้ร่วมกันใช้เหล็กท่อนตี จากนั้นก็ใช้เหล็กขูดชาฟต์แทง ก่อนที่จะใช้มีดปาดคอนายตั้นนัยบุคซ้ำอีก จนเสียชีวิต



ผู้ต้องหาให้การอีกว่า หลังก่อเหตุได้โทรศัพท์ไปบอกให้นายฟูจีไปเรียกรถแท็กซี่มารับเพื่อนำศพไปซุก ซ่อน ขณะที่รอรถแท็กซี่ได้ช่วยกันมัดศพในลักษณะท่านั่งแล้วยัดใส่ถังน้ำสีดำที่ อยู่ในห้องน้ำ และนำผ้าห่มมาปิดบริเวณปากถังน้ำไว้ จากนั้นช่วยกันยกถังดังกล่าวขึ้นท้ายรถแท็กซี่ โดยมีนายฟูจีนั่งไปกับรถแท็กซี่ด้วย จนถึงบริเวณถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ จึงได้ทำทีลงจากรถแท็กซี่ แล้วหลบหนีไป ทิ้งถังน้ำพร้อมศพไว้ในรถแท็กซี่ แล้วหลบหนีไปอยู่ที่ อ.บางใหญ่ จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด



จาก การสืบสวนยังพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดทั้งที่ถูกจับกุมและยังหลบหนีการจับกุม รวมถึงผู้ตายนั้น มีพฤติกรรมเป็น นายหน้าจัดหาแรงงานต่างด้าวให้กับสถานประกอบการ หรือให้กับบริษัทที่เปิดรับทำพาสปอร์ตแรงงานต่างด้าว โดยจะได้ค่าหัวคิวและนำมาแบ่งกัน แต่ผู้ตายไม่ยอมแบ่งปันให้เพื่อนๆ แถมยังมีนิสัยข่มขู่ทำตัวเป็น ขาใหญ่ จึงถูกฆ่าตายในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและซ่อนเร้นอำพรางศพ