วันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายบุญเทียน ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเขว้าศึกษา ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ว่า มีเด็กนักเรียนชายและหญิง 3 พี่น้อง ซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนเขว้าศึกษา ใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพังด้วยความยากลำบาก อดมื้อกินมื้อจนน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน โดยหลังแยกทางแม่ก็ไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด ส่วนพ่อไม่เคยมาเหลียวแล หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อเดินทางไปถึงโรงเรียนเขว้าศึกษา ก็ได้พบกับเด็กทั้งสามทราบชื่อคือด.ญ.พรชิตา แสนคำ หรือน้องเป้ อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 ด.ญ.ชนิตา แสนคำ หรือน้องเปีย อายุ 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 และด.ช.ยศภัทร มูลศรี หรือน้องดอน อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ซึ่งกำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้อง จึงได้เข้าไปหาเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยเด็กทั้ง 3 คนสวมเสื้อพละของโรงเรียนสีฟ้า กางเกงวอร์มสีดำ ซึ่งอยู่ในสภาพเก่าขาด ยับยู่ยี่ และเปรอะเปื้อน นอกจากนี้ยังพบว่าถุงเท้าที่ใส่มีสภาพเก่าขาดจนนิ้วทั้งสองข้างโผล่ออกมา
น้องเป้ พี่สาวคนโต เล่าว่า หลังจากพ่อแม่เลิกราจากกัน ต่างคนก็ไปมีครอบครัวใหม่ ปล่อยให้ตนต้องดูแลน้องทั้งสองตามลำพัง ส่วนตาก็ไปบวชเป็นพระ ส่วนยายก็หนีไปมีสามีใหม่ จึงทำให้ตนกับน้องต้องใช้ชีวิตอยู่กันเพียง 3 คนเป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว ไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล มีเพียงเพื่อนบ้านที่สงสารนำข้าวปลาอาหารมาให้ตนและน้องกินบ้าง
"ส่วนแม่ก็ไปทำงานรับจ้างอยู่กรุงเทพฯ จะกลับมาหาปีละ 2-3 ครั้ง แต่ก็จะส่งเงินมาให้ซื้อข้าวสาร และไว้ไปโรงเรียนบ้างสัปดาห์ละ 400-500 บาท ส่วนอาหารกลางวันรับประทานที่โรงเรียน"น้องเป้กล่าว
จากนั้นทางนายบุญเทียน ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเขว้าศึกษา ครูประจำชั้น และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูสภาพความเป็นอยู่ของน้องทั้ง 3 คน ที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 4 บ้านเขว้า ต.โคกขมิ้น สภาพบ้านชั้นเดียวค่อนข้างเก่า หลังคามุงสังกะสี ฝาบ้านทำด้วยไม้ที่ผุพังและเศษสังกะสีเก่า พื้นบ้านเป็นดิน ไม่ได้เทพื้นปูนใช้เศษเสื่อน้ำมันปูพื้นบ้าน
ภายในเพื่อไว้สำหรับเป็นที่หลับนอนเท่านั้น ทั้งพบเสื้อผ้า หม้อหุงข้าวเก่าไม่สามารถใช้งานได้ และที่นอนขาด สภาพแวดล้อมเป็นที่น่าเวทนา ส่วนห้องน้ำห้องส้วมก็มีสภาพเป็นหลุมลึกไม่มีประตูใช้เพียง ผ้ายางสีดำปิดแทนประตูเท่านั้น ซึ่งเสี่ยงเป็นอันตราย ไม่ปลอดภัย เพราะเด็กทั้ง 3 คนอยู่กันตามลำพังไม่มีผู้ใหญ่ดูแล น่าเป็นห่วงเรื่องสวัสดิภาพ และความปลอดภัย
นายบุญเทียนกล่าวว่า ทราบเรื่องนี้จากครูประจำชั้นของเด็กนักเรียนทั้ง 3 คน ไม่มีคนคอยดูแลต้องปล่อยให้อาศัยอยู่ตามยถากรรม จึงได้รายงานเรื่องนี้ให้นายเสรี ศรีหะไตร ผวจ.บุรีรัมย์ได้รับทราบ เพื่อหาแนวทางให้การช่วยเหลือ ซึ่งเด็กทั้ง 3 คนเป็นเด็กที่น่ารัก เรียนเก่ง และเป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนในชั้นเรียน ส่วนผลการเรียนของทั้งสามนั้นถือว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ดี ถึงแม้จะเป็นเด็กค่อนข้างที่จะมีปัญหาทางครอบครัวก็ตาม
จากสภาพความเป็นอยู่ของเด็กทั้ง 3 คนน่าเวทนาเป็นอย่างมาก ที่เด็กตัวเล็กๆ ทั้ง 3 คน ต้องอาศัยอยู่กันตามลำพังไม่มีพ่อแม่คอยดูแล บางวันข้าวเช้า-เย็นก็ไม่ได้กิน เพราะไม่เงินซื้อข้าวสารกับข้าว ต้องอาศัยเพื่อนบ้านนำมาให้ ส่วนวันปกติก็มีอาหารกลางวันกินที่โรงเรียน จนทำให้ทั้ง 3 มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ขณะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มบางส่วนก็ได้รับจากทางโรงเรียน ที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่มก็มีบางส่วน แต่สภาพเก่ามาก
อีกทั้งสภาพบ้านก็ไม่มั่นคงแข็งแรง เกรงว่าอาจเกิดอันตรายแก่เด็กหญิงทั้งสองคนได้ ทำให้หลายคนที่อยู่ใกล้บ้านเด็กทั้งสามคนต่างอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็กทั้ง 3 คนที่ต้องอยู่ตามลำพัง จึงขอฝากวิงวอนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้มาช่วยกันให้การช่วยเหลือเด็กทั้งสามคนนี้ด้วย
หากผู้มีจิตศรัทธาหรือใจบุญต้องการช่วยเหลือทั้ง 3 พี่น้อง สามารถติดต่อได้ที่นายบุญเทียน ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเขว้าศึกษา โทรศัพท์ 0 624 955 064 หรือ ชื่อบัญชีกองทุนช่วยเหลือ 3 พี่น้อง ร.ร.เขว้าศึกษา ธนาคารกรุงไทย สาขาประโคนชัย เลขที่บัญชี 316-0-47632-4 โดยจะมีคณะครู และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้ดูแล
ที่มา ข่าวสด