เสียงปืนที่ถูกรัวสนั่นกลางถนนสุราษฎร์ธานี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุระทึกขวัญในการ กวาดล้างเอเยนต์ยาเสพติดแต่เรื่องราวครั้งนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่คาดไว้ เมื่อเกิดการยิงปะทะต่อสู้กันอย่างดุเดือด สุดท้ายคนทำผิดก็ต้องชดใช้กรรมด้วยความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกคืนมาได้เหตุปะทะเดือดครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่สืบทราบมีเอเยนต์รายใหญ่เตรียมไปรับยาเสพติดในพื้นที่อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย ตั้งด่านตรวจค้นบนถนนสายสุราษฎร์ฯ-นาสาร หน้าสภ.ขุนทะเล ซึ่งเป็นเส้นทางหลักผ่านไปยังพื้นที่เป้าหมาย
นำโดยพล.ต.ธีร์ณฉัฎธ์ จินดาเงิน ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผบก.สส.ภ.8 และนายสมจิต สัจสัญญาวุฒิ ผบ.เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี
กระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบตี 1 เจ้าหน้าที่พบรถกระบะโตโยต้า สีดำ แบบตอนครึ่ง ทะเบียน มว-4567 สุราษฎร์ธานี ซึ่งตรงกับที่รับแจ้งไว้ขับผ่านมา จึงส่งสัญญาณหวังขอตรวจค้นตามปกติ
แต่จังหวะที่รถกระบะกำลังจะเทียบเข้าด่านตรวจ คนขับกลับเหยียบคันเร่งเครื่องหลบหนีไป
ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างกระโดดขึ้นรถขับติดตามไล่ล่าไปอย่างกระชั้นชิด
ระหว่างทางยังพยายามส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่กับได้รับการปฏิเสธ
มิหนำซ้ำคนขับยังลดกระจกรถแล้วชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด
โดยเจ้าหน้าที่ขับติดตามรถต้องสงสัยมาถึงบริเวณถนนเซาเทิร์น ซีบอร์ด ก.ม.91-92 หมู่ 3 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม ก่อนรถกระบะจะเสียหลักพุ่งลงข้างทางจนพลิกตะแคงและไม่สามารถขับต่อไปได้
คนขับจึงพยายามปีนออกมาจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง พร้อมหันมาใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่อีก
ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากยิงตอบโต้กันจนเสียงปืนดังกังวาลไปทั่วบริเวณ
เมื่อทุกอย่างสงบลงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณข้างรถกระบะ พบศพชายถูกวิสามัญฆาตกรรม
จากนั้นได้ตรวจสอบภายในตัวพบเอกสารทราบชื่อนายจักรินทร์ จันโกมล หรือฉายา "เอ็ม ตามาร"เอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่ที่หลบหนีการคุมขังออกมา
สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ และมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ลำตัวหลายนัด
เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร ร.พ.สุราษฎร์ธานี และอัยการจังหวัด ให้มาร่วมตรวจสอบ
จากการตรวจเช็กประวัติของนายจักรินทร์ย้อนหลังพบมีคดีติดตัวมากมาย
โดยนายสมจิต ผบ.เรือนจำกลางสุราษฎร์ ธานี เผยถึงประวัติของเอเยนต์ยาเสพติด รายนี้ว่า
นายจักรินทร์ หรือเอ็ม ตามาร เป็นนักโทษคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยศาลตัดสินลงโทษให้จำคุกตลอดชีวิต และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีคดีที่ต้องขึ้นศาลอีก 2 คดีจากทั้งหมด 8 คดี
แต่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายจักรินทร์ใช้เหล็กแหลมแทงตัวเองที่หน้าท้องจนเป็นแผลลึกเลือดตกใน ผู้คุมจึงนำตัวส่งร.พ.สุราษฎร์ธานี
ขณะพักฟื้นรักษาตัวที่โรงพยาบาล นายจักรินทร์กลับอาศัยจังหวะผู้คุมเผลอหลบหนีออกไปได้ในคืนวันนั้นเลย พร้อมหวนกลับไปค้ายาเสพติดอีกครั้ง
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามออกสืบสวนติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมครอบครองอาวุธด้วย
กระทั่งมาทราบว่านายจักรินทร์หนีไปกบดานที่บ้านเกิดในอ.เวียงสระ จึงนำกำลังตั้งด่านตรวจค้นแล้วพบรถต้องสงสัยขับผ่านมาซึ่งเป็นนายจักรินทร์และเกิดการยิงต่อสู้กันจนนำมาสู่การวิสามัญฆาตกรรมดังกล่าว
ส่วนฉายา "เอ็ม ตามาร"ได้มาจากรอยสักบริเวณรอบดวงตาคล้ายกับพวกมาร ทำให้ดูน่ากลัว นอกจากนี้ยังมีรอยสักทั้งตัวด้วย
ปิดฉากไปอีกคดีสำหรับเอเยนต์ยาเสพติด