ยัน ไล่ออก หนุ่มคนดี เอารถไปใช้ส่วนตัว เถ้าแก่เนี้ยโมโหมาก!


เถ้าแก่ร้านขายน้ำ นายจ้างหนุ่มพลเมืองดีที่หาดใหญ่ ช่วยหลานรอดถูกตาหื่นข่มขืน ยันไล่ออก ไม่เกี่ยวกับไปเป็นพยานแล้วส่งน้ำช้า แต่เพราะเอารถไปใช้ส่วนตัว ขับกลับบ้านที่พัทลุง ทำให้เถ้าแก่เนี้ยโมโหมาก 

ความคืบหน้ากรณี นายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี หรือต้น ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่กำลังจะถูกตาวัย 68 ปี ข่มขืนในป่าในพื้นที่หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าได้ถูกนายจ้างไล่ออกจากงานที่เป็นพนักงานส่งน้ำดื่ม ซึ่งนายทิพกร สงสัยว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการที่เขาไปเป็นพยานและทำให้ส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทัน รวมทั้งกรณีเอารถคันใหม่ไปส่งน้ำแต่กลับมาล่าช้าทำให้เถ้าแก่ไม่พอใจ(อ่าน เจ๊บอกเสียเวลาส่งของ หนุ่มพลเมืองดีช่วยสาวจะถูกข่มขืน โดนไล่ออกจากงาน)
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโรงงานผลิตน้ำที่นายทิพกร ทำงานอยู่ ซึ่งได้ชี้แจงผ่านทางโทรศัพท์เพราะไม่พร้อมจะเผยตัว เนื่องจากขณะนี้กลายเป็นจำเลยสังคม โดยเถ้าแก่ที่เป็นผู้ชายกล่าวว่า สาเหตุที่ให้ นายทิพกร ออกไม่ได้มาจากการไปเป็นพยานในคดีนี้จนทำให้เสียการเสียงานส่งน้ำไม่ทัน ซึ่งตนและภรรยายังชื่นชมนายทิพกร ด้วยซ้ำ 
แต่สาเหตุจริงๆ มาจากเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งนายทิพกร ขอรถคันใหม่ไปส่งน้ำให้ลูกค้าที่ค้างอยู่อีก 50 ถัง เพราะส่งให้ไม่ทันในวันเกิดเหตุ โดยอ้างว่าคันเก่าที่ขับส่งน้ำเป็นประจำ กระจกแตกขับไม่ได้ ซึ่งตนก็ให้ไป และก่อนไปส่งน้ำได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจที่ สภ.หาดใหญ่เสร็จประมาณบ่าย 2 โมง จึงไปส่งน้ำต่อ ซึ่งเวลาที่ใช้ในการส่งน้ำจริงๆ ราว 1 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่นายทิพกร นำรถกลับมาส่งที่โรงน้ำตอน 4 ทุ่ม ภรรยาของตนจึงโมโหมากเพราะในวันนั้นจำเป็นต้องใช้รถไปย้ายหอให้กับลูกสาวและเพื่อนที่ อ.เมืองสงขลา ในช่วงเย็น จึงทำอะไรไม่ได้เลย เพราะไม่มีรถจึงให้ นายทิพกร ออก 
เถ้าแก่ บอกด้วยว่า จริงๆ แล้วได้วางแผนที่จะซื้อรถและเซ้งน้ำให้นายทิพกร มีกิจการส่งน้ำเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ซึ่งได้คุยกันไว้แล้วเพื่อสร้างตัวเอง และส่วนตัวตนก็ไม่ได้คิดจะไล่ แต่วันนั้นภรรยาโมโหมากที่นำรถไปใช้ส่วนตัวกลับมาช้า ทราบว่าขับไปบ้านญาติที่ จ.พัทลุง จึงกลับมาช้า ถ้าวันนั้นกลับมาถึงเร็วก็ไม่ถูกไล่ออก จึงขอความเห็นใจกับสังคมด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ นายทิพกร เป็นพลเมืองดีช่วยเหลือเด็กหญิงที่กำลังจะถูกข่มขืน และต้องไปเป็นพยานแต่อย่างใด
ด้าน นายทิพกร ได้มีการติดต่อมาว่าจะเดินทางมาที่ สภ.หาดใหญ่ อีกครั้งประมาณช่วงบ่ายของวันนี้เพื่อพบกับผู้สื่อข่าวและตำรวจเรื่องการช่วยเหลือ รวมทั้งเคดีข่มขืนที่ต้องเป็นพยาน หลังจากเมื่อวานนี้ได้เดินทางกลับไปนอนค้างกับญาติที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ข่าว นายทิพกร พลเมืองดีถูกไล่ออกจากงาน ได้มีผู้ติดต่อยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือมาจากทั่วประเทศ รวมทั้งที่มารอพบที่ สภ.หาดใหญ่ เสนองานให้ทำรวมทั้งบริจาคเงินมาซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้ ในจำนวนนี้รวมถึง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาท และพร้อมที่จะหางานทำให้ที่ จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมีธนาคาร ติดต่อจะช่วยเหลือเช่นกัน