ที่ชลบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่บริเวณหน้า สภ.แสนสุขที่ผ่านมา ทางพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 พร้อมกับพล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม รอง ผบช.ภ.2 พ.ต.อ.เสรี เศรษฐกร ผกก.สภ.แสนสุข พ.ต.ท.ชาติชาย รื่นถวิล รอง ผกก.สภ.แสนสุข พ.ต.ท.ปพนพัชร์ ใบยา สว.สส.สภ.แสนสุขได้แถลงข่าวการติดตามจับกุมคนร้ายที่เข้าก่อเหตุในหมู่บ้านกรีนวิวบีช ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี เป็นบ้านของนางนงลักษณ์ อายุ 58 ปี ได้ทรัพย์สินไปกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งก่อเหตุเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา
และติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุได้ทั้งหมด 3 คนได้แก่นายฉัตรชาย หรือ ชาย ฉัตรอมรโชติกุล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/137 ม. 8 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม.ผู้ลงมือโจรกรรมงัดตู้เซฟ นายศรัณย์ หรือ โต้ง แก้วเวียงเดช อายุ 51 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 82/1378 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม ทำทีเป็นนายหน้าซื้อบ้าน และนายพงศกร แก้วด่านจาก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156/1 ซ.วชิรธรรมสาธิต 34 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ผู้สนับสนุนยานพาหนะมาก่อเหตุ
พร้อมของกลางที่ติดตามยึดคืนมาได้จำนวน 100 กว่าราบการ มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท และยังเหลือทรัพย์สินที่ยังไม่สามารถติดตามคืนมาได้อีกกว่า 10 ล้านบาทด้วยกัน โดยจับกุมหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่คอนโดเดอะเลค เมโทรปาร์ค อาคาร 2 อี ห้องที่ 164/7 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.พร้อมของกลางเป็นเครื่องเพชร พลอย ทองรูปพรรณ เครื่องเงินและพระเครื่องกลับคืนมาได้กว่า 100 รายการ รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท และยังเหลือที่ไม่พบอีกกว่า 10 ล้านบาทด้วยกัน
โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายโดย จะหาเหยื่อที่ประกาศขายบ้านราคาแพงๆ หลังจากนั้นก็เข้ามาตีสนิท โดยบอกว่า เป็นนายหน้าหาซื้อบ้านให้เจ้านาย จนกระทั่งเหยื่อหลงเชื่อ เปิดบ้านให้ดูอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม ในระหว่างนั้นคนร้ายดูทรัพย์สินไปด้วย หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ก็นัดเวลาที่จะทำสัญญา ในช่วงนั้นคนร้ายก็มาซุ่มดูความเคลื่อนไหวของเจ้าของบ้าน สบโอกาสก็จะเข้าโจรกรรมทรัพย์สินทันที ในรายนี้ทางนายศรัณย์ กับนายฉัตรชาย แต่งตัวภูมิฐาน ขับรถเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฉข-4884 กทม.เข้ามาหาผู้เสียหาย ซึ่งประกาศขายบ้านเอาไว้ในราคา 20 ล้าน หลังจากนั้นตัวต้องหาทั้ง 2 คนขอดูภายในบ้าน เจ้าของบ้านหลงเชื่อก็เปิดบ้านให้ดูทุกซอก ทุกมุม คนร้ายก็ทราบทรัพย์สินอยู่จุดใด หลังจากนัน้นอีก 1 สัปดาห์ คนร้ายก็มาพบเจ้าของบ้านโดยทำทีให้เจ้าของบ้านนำเอกสารไปที่สำนักงานที่ดินที่จะทำการซื้อขาย เพื่อให้ออกบ้านไป คนร้ายก็ย้อนกลับเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินอย่างสบาย ซึ่งได้ทรัพย์สินไปกว่า 20 ล้านบาท พร้อมกับหลบหนีไป
ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 เผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายฉัตรชัย ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาครั้งหนึ่ง เมื่อพ.ศ. 2552 ที่บริษัท บิวตี้เจมส์ เจาะตู้เซฟเอาทรัพย์สินไปกว่า 4 พันชิ้น มูลค่ากว่า 60 ล้านบาทมาครั้งหนึ่งและ และมาก่อเหตุในครั้งนี้อีก ได้ทรัพย์สินรวมไปกว่า 100 ล้านบาท โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นหนี้พนันฟุตบอล จึงก่อเหตุเพื่อไปชดใช้หนี้ดังกล่าว จึงส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกรีดขวางหรือรับของโจร ต่อไป
ผบช.ภ.2กล่าวอีกว่า มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอความร่วมมือมายังประชาชนในการแจ้งข่าวสาร หรือเบาะแสเกี่ยวกับอาชญากรรมและยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องปรามการก่อเหตุจากมิจฉาชีพทั้งหลาย คดีนี้สาเหตุก็มาจากผู้ต้องหาติดการพนันฟุตบอล จึงก่อเหตุดังกล่าว